INFORMATION
"ตำนานของเซลด้า" เปิดฉากขึ้นครั้งแรกย้อนหลังไปเมื่อปี ค.ศ. 1986 สมัยที่ภาพกราฟิกของเกมยังเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมหยาบ ๆ ที่ต้องใช้จินตนาการช่วยในการดูว่า กราฟิกเกล่านั้นคือรูปอะไรกันบ้าง?
หลังระยะเวลาล่วงเลยผ่านมายาวนานถึง 31 ปีในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล ทำให้สามารถสร้างภาพกราฟิกที่เสมือนจริงชนิดแทบจะแยกกับภาพจริง ๆ ไม่ออก ปู่นินก็ยังคงเข็นเกมเซลด้าออกมาสร้างตำนานอย่างไม่หยุดหย่อน และในครั้งนี้ต้องขอปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของ Nintendo อย่างแท้จริงกับการพัฒนาเกมคุณภาพระดับเกรด A บวก ๆ "The Legend of Zelda : Breath of The Wild" ออกมาให้เหล่าเกมเมอร์ได้พบพานกับความสนุกสุดฟินกัน
เกม "The Legend of Zelda : Breath of The Wild" มีการเปิดตัวตั้งแต่งาน E3 2014 โดยปู่นินประกาศว่า จะปล่อยวางจำหน่ายในช่วงกลางปีก่อนบนเพลตฟอร์ม Wii U ทว่า เจอโรคเลื่อนเล่นงาน ก่อนจะได้เผยโฉมจริง ๆ ในต้นปีนี้ เรียกว่าใช้เวลาพัฒนาข้ามรุ่นเครื่องเล่นกันเลยทีเดียว สร้างสมัย Wii U ได้วางจำหน่ายจริงในสมัย "Nintendo Switch" เครื่องเล่นเกมคอนโซลตัวใหม่ถอดด้ามของ Nintendo
การเลื่อนวางจำหน่ายครั้งนี้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าปู่นินตั้งใจหรือเปล่า แต่การที่เกม "The Legend of Zelda : Breath of The Wild" ถูกปล่อยออกวางขายช่วงนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก ๆ สำหรับ Nintendo เพราะความยอดเยี่ยมกระเทียมดองของเกม ๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่อง "Nintendo Switch" ให้วิ่งฉิวอย่างแน่นอน
การที่ปู่นินตัดสินใจนำโลกอิสระ Open World มามอบให้กับเกม Action RPG อย่าง เซลด้า ช่วยให้เกมมีความน่าสนใจอย่างมาก แต่การจะผสมผสานทั้งสองสิ่งให้เข้ากันอย่างกลมกลืนไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ทว่า ทีมพัฒนา "Nintendo EPD" ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ "The Legend of Zelda : Breath of The Wild" เป็นเกมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง พูดกันง่าย ๆ แบบไม่ได้อวยเลยว่า การเสียเงินซื้อเครื่อง Switch เพื่อมาเล่นแค่เกมนี้เกมเดียว ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแล้ว
ความสุดยอดของ "The Legend of Zelda : Breath of The Wild" ที่ทำให้ได้รับคะแนนรีวิวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากทุกสำนัก เต็มสิบได้สิบ เต็มร้อยได้ร้อย ก็เพราะเกมมีความลงตัวอย่างมาก ระบบเกมเพลย์สนุกสุด ๆ ภาพกราฟิกมีความลงตัวทางด้านศิลปะ ซีรีส์เซลด้าเน้นภาพที่เป็นการ์ตูนมากกว่าเสมือนจริงอยู่แล้ว และกราฟิกในเกมนี้ทำให้เกมเมอร์ส่วนใหญ่นึกไปถึงภาพจากการ์ตูนของสตูดิโอดัง "จิบลิ" ระบบเสียงยอดเยี่ยม เกมมีซับภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลให้ได้อ่าน ทำให้เล่นได้ทุกชาติทุกภาษา และด้วยความที่เป็นเกมโลกอิสระ ทำให้ฉากในเกมทีความกว้างใหญ่ไพศาลสุด ๆ การที่ทีมพัฒนามอบความสามารถในการปีนป่ายให้กับตัวละครหลัก Link ทำให้ตัวละครไปได้ทุกที่แบบไร้ขอบเขต นอกจากนั้น สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ภายในฉากสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นได้ ไม่ใช่เป็นแค่ฉากหลังเท่านั้น ในส่วนของสภาพอากาศในเกมที่มีการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกมมีความน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ยามที่มีฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่า หากตัวละครถืออาวุธที่เป็นโลหะอยู่ ก็อาจถูกฟ้าผ่าตายได้ หากเราบังคับตัวละครไปยืนตากฝน อุณหภูมิในร่างกายก็จะลดต่ำลง จนอาจไม่สบายได้ เช่นเดียวกับ หากมีหิมะตกลงมา ถ้าเราบังคับตัวละครไปนอนกลางหิมะ ก็ทำให้หนาวตายได้เลย สำหรับวิธีแก้ก็คือ เวลานาว ก็ต้องไปหาเสื้อผ้าหนา ๆ มาใส่ หาเครื่องดื่มหรืออาหารร้อน ๆ มาทาน จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น
เกมยังมีระบบการต่อสู้ที่เน้นความเป็นแอ็คชั่นมากกว่าภาคก่อน ๆ มีปริศนาท้าทายไอคิวให้แก้มากมาย มีไอเท็มต่าง ๆ มีอาวุธหลากหลาย มีอะไรให้ทำเพียบภายในเกม สามารถเลือกเส้นทางได้ตามต้องการ แม้แต่วิธีจัดการกับศัตรูและบอสต่าง ๆ ทีมพัฒนาก็มอบอิสระให้ผู้เล่นคิดได้เอง ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงเท่านั้น ถือเป็นหนึ่งในเกมแอ๊คชั่น-ผจญภัยที่สมบูรณ์แบบที่สุดเกมหนึ่งเท่าที่โลกมนุษย์เคยมีมา ข้อเสียของเกมก็คือ หากจะเล่นในสนุกสุด ๆ ก็ต้องยอมเสียเงินซื้อเครื่องคอนโซลตัวใหม่ Switch กันเลยทีเดียว และมีปัญหาเฟรมเรตตกในบางฉาก เกมเล่นได้คนเดียวเท่านั้น ไม่มีโหมดผู้เล่นหลายคน
---------------------------------------------------------
ผู้ผลิต : Nintendo
ผู้พัฒนา : Nintendo EPD
ซีรีส์ : The Legend of Zelda
ประเภท : แอ๊คชั่น - ผจญภัย
แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch, Wii U
จำนวนผู้เล่น : คนเดียว
---------------------------------------------------------
review by ฮันส์แบ๊ก